วันอังคารที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2560

นิตยสาร ME ครบรอบ 9 ปี และพิธีมอบรางวัลอันทรงเกียรติ  ME AWARDS  2017


บริษัท มี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตนิตยสาร ME MAGAZINE Thailand (Market Evolution) ดำเนินธุรกิจก้าวเข้าสู่ปีที่ 9 และได้มีการจัดงานครบรอบ โดยคุณอาภาพิชา สุวรรณปาน กรรมการผู้จัดการ จัดงานในครั้งนี้ เพื่อเป็นขอบคุณลูกค้าที่ให้การสนับสนุนนิตยสารโดยดีมาตลอดระยะ 9 ปี และนิตยสารได้พัฒนาและขยายการรองรับเข้าสู่โลกดิจิตอล เราได้เปิดตัว  “MEMAG ONLINE” ผ่านเว็ปไซด์ www.memagazine.co.th   ภายใต้ชื่อชื่อบริษัท  WORK WITH ME CO.,Ltd.

          ในโอกาสพิเศษนี้ เราได้มีโอกาสมอบรางวัลพิเศษให้กับนักธุรกิจที่โดดเด่นในปี 2017 ภายใต้ชื่องาน ME AWARDS 2017 ในคอนเซ็ป Executive of Digital Transformation Process  เพื่อมอบรางวัลอันทรงคุณค่าให้กับนักธุรกิจแต่ละบริษัทที่มีทั้งองค์ความรู้-ความสามารถด้านการบริหารจัดการ มีคุณธรรม จริยธรรม ทั้งหมด 13 ท่าน ในแต่ละสาขาอุตสาหกรรมธุรกิจในเมืองไทย ภายใต้ ธีมงาน years of advancement and sustainability

เราได้คัดเลือกสุดยอดนักบริหาร CEO เพื่อมอบรางวัลอันทรงเกียรติ เพื่อเป็นแรงและกำลังใจให้กับนักธุรกิจในประเทศไทย เพื่อเชิดชูเกียรติแก่บุคคลในวงการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเหล่านี้  และยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่จะเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยและในอนาคต ซึ่งผลงานที่เราได้เคยจัดกิจกรรวม CEO Awards 2012 และ ME AWARDs 2015

ภายในงานได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ ไคเม่ นัวลาร์ต  เอกอัครราชทูต เม็กซิโก ประจำประเทศไทย(H.E. MR. JAIME NUALART), Mr. Jan Scheer (Deputy Head of Mission and Head of the Economic Section)  สถานทูตเยอรมัน ประจำประเทศไทย, และดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิชอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นเกียรติขึ้นมอบรางวัลให้กับสุดนักธุรกิจที่ได้รับรางวัล  ME AWARDS 2017 นี้          

รายชื่อและรางวัลสำหรับ Me Awards 2017  13 ท่าน 13 สาขารางวัล

1.คุณเฉลิมชัย มหากิจศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

CHIEF EXECUTIVE OFFICER OF PM GROUP CO.,LTD.

CHIEF EXECUTIVE OFFICER AND PRESIDENT OF THORESEN THAI AGENCIES PLC.

  รางวัล CEO Of the Year Award" ซีอีโอแห่งปี

2. คุณอดิศร์ พฤกษ์พัฒนรักษ์   ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท อิตัลไทยอุตสาหกรรม จำกัด

    รางวัล Operational Excellence Award ผู้มีความเป็นเลิศด้านการบริหารองค์กร 

3. คุณ สุกัญญา จันทร์ชู  General Manager Dusit Thani Bangkok 

     รางวัล Best Hospitality management Award ที่สุดแห่งการบริหารจัดการอุตสาหกรรมการให้บริการ

4. คุณสุขเทพ จันศรีชวาลา PRESISENT AND CHIEF EXECUTIVE OFFICER

    บริษัท มิตรแท้ประกันภัย (มหาชน)

    รางวัล Best CEO of Success Award ผู้บริหารที่สร้างความสำเร็จให้กับบริษัท 

5.คุณพรพิมล ปักเข็ม CHIEF EXCUTIVE OFFICER  MATCH HOUSE CO.,LTD

   รางวัล Women of Intelligence Award ผู้บริหารหญิงแห่งสติปัญญาและความรู้

6. คุณอรรฆรัตน์ นิติพนFOUNDED AND CHIEF EXCUTIVE OFFICER OF MUSHROOM GROUP

       รางวัล Rise of Creativity Award  บริหารสร้างสรรค์แห่งวงการ

 7.คุณภาณุ โชคอภิรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท ฟร้อนท์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด

  รางวัล Achieving Leadership Excellence Award ความเป็นเลิศด้านผู้นำสู่ความสำเร็จ

8 . คุณธนา ลิมปยารยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  เชนธนา ซัพพลีเมนท์ จำกัด

     รางวัล Young Aspiring Entrepreneur Award ผู้บริหารรุ่นใหม่กับวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกล

9. คุณเกียรติศักดิ์ กีรติยากรสกุลกรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.พี.เอ็น. มอเตอร์คาร์

      รางวัล Outstanding Entrepreneurship Award ผู้บริหารองค์กรที่มีผลงานโดดเด่นในวงการ

10. คุณสายฝน เขียวเกิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส เจ เจ กรุ๊ฟ จำกัด

         รางวัลผู้ CEO of Innovative Solutions Award บริหารธุรกิจแห่งนวัตกรรม 

11.คุณพงษ์ศักดิ์ มหัทธนสกุลWM Managing Director Pace Interior services CEO and Founder

     รางวัล Best Constructive Award   ผู้บริหารแห่งการออกแบบสร้างสรรค์

12. คุณณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์  CO-FOUNDER AND CHIEF EXECUTIVE OFFICER OF OOKBEE

        VENTURE PARTNER AT 500 STARTUPS

       รางวัล Emerging Startup Award  สตาร์ทอัพดาวรุ่ง

   13.คุณรณันธร พลชาติ  CHIEF EXECUTIVE OFFICER OF MY BAG SPA (THAILAND) CO., LTD.

        AND BAG REPUBLIC ASIA CO.,LTD.   

        รางวัล Most Active Passionpreneur Award นักบริหารที่ไม่หยุดทำตาม Passion ของตนเอง               

           ภายในงานมีการแสดงขอน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และร่วมถวายความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชกาลที่ 9 เพื่อให้พสกนิกรชาวไทยได้ซาบซึ้งกับพระอัจฉริยะภาพด้านดนตรีของพระองค์กันให้มากขึ้น ผ่านศิลปินจากทาง True Fantasia คุณธนษิต จตุรภุช (ต้น AF8) ขับร้องเพลง Blue Day, คุณณัฐฐ์ณัชชา นำเจริญสมบัติ (แอน AF 6) ขับร้องเพลง สายฝน และศิลปินกิตติมศักดิ์ แมน วทัญญู มุ่งหมาย ขับร้องเพลง พระราชนิพนธ์ “ความฝันอันสูงสุด”

           พร้อมนักธุรกิจและเซเลบริตี้ชื่อดังของเมืองไทยที่เข้าร่วมงานอาทิ มาร์ค ธาวิน, , แม่สาย ประภาสะวัต,  คุณหญิงอิสริยาภรณ์ ปัจฉิมานนท์คุณหญิงโรส บริบาลบุรีภัณฑ์รัญชา บริบาลบุรีภัณฑ์,วี มาร์หม่อมไฉไล ยุคล ณ อธุธยาอสิตา วิมลไชยจิต, บุญญาดา กฤติยะโชติกุล, อานันทเดชน์ อมาตยกุล, พิมพ์ชิน ภัคพัฒน์,เมย์ริสสรา จันทรรัตน์สุนทรีย์ จันทร์ศรีชวาลา,วสวัตติ์ วัฒนาศิริสมบัติ, นิมา ชิราซีภัสส์กุญช์ สงวนณพรรคดร. จินดารัตน์ ชุมสาย ณ อยุธยา  เป็นต้น โดยงาน ME AWARDS 2017 ครั้งนี้จัดขึ้นเมื่อวันที่  2 ตุลาคม ณ โรงแรม ดุสิตธานี

วันพฤหัสบดีที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ไมเนอร์ ฟุ้ด กรุ๊ป!!! รักษาแชมป์ Thailand Top Corporate Brand Value 2017 2 ปีซ้อน


มร .พอล เคนนี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เดอะ ไมเนอร์ ฟุ้ด กรุ๊ป ในนาม บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) รับรางวัล “Thailand’s Top Corporate Brand Values awards 2017” ซ้อนในหมวดธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม จาก ศาสตราจารย์ ดร. บัณฑิต เอื้ออาภรณ์  อธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในงาน Thailand’s Top Corporate Brand Values 2017 จัดโดย หลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสื่อในเครือผู้จัดการ ณ หอประชุม
ศุกรีย์ แก้วเจริญ  ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อเร็วๆนี้ 

มร .พอล เคนนี่ กล่าวว่า เรารู้สึกภูมิใจเป็นเกียรติที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ ซึ่งถือว่าเป็นปีที่ ติดต่อกัน ในฐานะของผู้แทนของบริษัท และพนักงานไมเนอร์ ฟุ้ด กรุ๊ป ขอขอบคุณหลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการตลาด 
คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่เล็งเห็นความสำคัญของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม รางวัลนี้ถือเป็นสิ่งเตือนใจที่เราจะรักษามาตราฐานที่ดีต่อไป

อนึ่ง  “Thailand’s Top Corporate Brand Values” ซึ่งประเมินด้วยเครื่องมือที่เรียกว่า CBS Valuation (Corporate Brand Success Valuation) ซึ่งวิจัยและพัฒนา ภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อจัดอันดับและองค์กรที่มีมูลค่าแบรนด์องค์กรสูงสุดในทุกหมวดธุรกิจในประเทศไทย ในแต่ละปี เพื่อศึกษาถึงเคล็ดลับในการที่จะนำพาแบรนด์ไปสู่ความสำเร็จ อันจะก่อให้เกิดประโยชน์กับภาคธุรกิจและผู้ที่สนใจในเรื่องธุรกิจ 
โดยปีนี้ได้จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ แล้ว    

วันอังคารที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

หลักสูตร BTEC จากวิทยาลัยนานาชาติรีเจ้นท์ นำนักศึกษาเปิดประสบการณ์การศึกษาในสหราชอาณาจักร

วิทยาลัยนานาชาติรีเจ้นท์ กรุงเทพฯ จัดพิธีสำเร็จการศึกษาแก่นักศึกษาในหลักสูตร BTEC (Business Technology Education Councilในวันอังคารที่ 18 กรกฎาคม 2560 ณ หอประชุม วิทยาลัยนานาชาติรีเจ้นท์ โดยหลักสูตร BTECคือการศึกษาหลักสูตรนานาชาติ 3 ปี แบ่งเป็นการศึกษาในกรุงเทพฯ 2 ปี และไปศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยที่ประเทศอังกฤษต่อีก 1 ปี (2+1)

 

● วิทยาลัยนานาชาติเดอะรีเจ้นท์ เป็นสถาบันการศึกษาแห่งแรกที่นำหลักสูตรการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยลอนดอนและสภาการศึกษาธุรกิจและเทคโนโลยีแห่งอังกฤษ (BTECสู่ประเทศไทย โดยหลักสูตร BTEC ถือเป็นการรับรองวิทยฐานะของการศึกษาด้านธุรกิจและเทคนิคการปฏิบัติที่ใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักร
● หลักสูตร BTEC นำเสนอระบบการศึกษาชั้นเลิศที่ดีที่สุด โดยยึดหลักการเรียนรู้ของผู้เรียน รวมถึงการรับรองวิทยฐานะทั้งในด้านสาชาอาชีพและการศึกษาเชิงวิชาการระดับสากล รายงานเกี่ยวกับกรมการศึกษาในสหราชอาณาจักรของวู้ล์ฟ ระบุว่านักศึกษาที่เรียนในหลักสูตร BTEC มีโอกาสหางานได้ง่ายและดีกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยทั่วไป เนื่องจากมีรูปแบบหลักสูตรที่ดีกว่า
● พิธีสำเร็จการศึกษาถือเป็นการยกย่องนักศึกษาที่สำเร็จหลักสูตร BTEC ระดับ  Higher National Diploma (HND) และพร้อมเดินทางไปศึกษา ณ มหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรเป็นเวลา 1 ปี เพื่อให้สำเร็จการศึกษาอย่างสมบูรณ์ หลักสูตร BTEC มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานในด้านความเป็นเลิศทางการศึกษา ผ่านการนำเสนอสภาพแวดล้อมการทำงานจริง ด้วยการให้ผู้เรียนฝึกฝนปฏิบัติงานบนแพลทฟอร์มเพื่อการเรียนรู้ ซึ่งทำให้ผู้เรียนเกิดทักษะที่จำเป็นและประสบความสำเร็จในสายอาชีพของตนเองในอนาคต

 

กรุงเทพฯ วันอังคารที่ 18 กรกฎาคม 2560 -  วิทยาลัยนานาชาติเดอะรีเจ้นท์ กรุงเทพฯ จัดพิธีสำเร็จการศึกษาแก่นักศึกษาในหลักสูตร BTEC โดยมีทั้งผู้ปกครอง นักศึกษาบุคคลระดับสูง และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมแสดงความยินดีอย่างอบอุ่น ณ วิทยาลัยนานาชาติเดอะรีเจ้นท์ ภายในงานยังประกอบด้วยกิจกรรมเด่นอื่น ๆ อาทิ การจัดแสดงผลงานและความสำเร็จของนักศึกษา รวมถึงโครงการที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติในโอกาสต่าง ๆ 

 

เหล่าแขกผู้มีเกียรติภายในงานครั้งนี้ ได้แก่ มร.ไซมอน ยัง ผู้อำนวยการฝ่ายการรับรองคุณวุฒิ (BTEC & Pearson) ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งให้เกียรติเดินทางมายังประเทศไทยเพื่อร่วมงานครั้งนี้โดยเฉพาะ โดยมี ดร.วีระชัย เตชะวิจิตร์ ประธานกรรมการกลุ่มโรงเรียนนานาชาติเดอะรีเจ้นท์, มร. นิติน ดัตต้า ผู้อำนวยการวิทยาลัยนานาชาติเดอะรีเจ้นท์, และ มร.วอร์เร็น สแตนเวิร์ธ ผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ วิทยาลัยนานาชาติเดอะรีเจ้นท์ เป็นเจ้าภาพจัดงาน

 

“พิธีสำเร็จการศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงอีกหนึ่งความสำเร็จของหลักสูตร BTEC ในประเทศไทย หลักสูตรนี้คือการผสมผสานรูปแบบการเรียนรู้ในห้องเรียน เทคนิคการเรียนรู้แบบประยุกต์ การฝึกฝนสาอาชีพ และประสบการณ์การฝึกฝนปฏิบัติงานในโลกแห่งความเป็นจริง ซึ่งทำให้ผู้เรียนประสบความสำเร็จและมีโอกาสเดินทางไปศึกษาต่อ ณ มหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร มหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา หรือมหาวิทยาลัยชั้นแนวหน้าอื่นๆในต่างประเทศได้ในปีถัดไป นี่คืออนาคตแห่งการเรียนรู้ที่พร้อมตอบสนองต่อแนวโน้มที่กำลังเปลี่ยนแปลงของโลกปัจจุบันได้อย่างสมบูรณ์แบบ” มร.ไซมอน ยัง กล่าว

 



วันศุกร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

เดอะ ดอค ซีฟู้ดบาร์ บาย ธรรมชาติ ซีฟู้ด คว้ารางวัลอันทรงเกียรติจากงาน “Bangkok’s Best Restaurants” ครั้งที่ 19 ณ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ

งานประกาศผลรางวัล “Bangkok’s Best Restaurant Awards” ครั้งที่ 19 จัดขึ้นในค่ำคืนวันที่ 20 มิถุนายน 2560 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ โดยมีผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารชั้นนำและสถานบันเทิงที่มีชื่อเสียงของกรุงเทพฯ เข้าร่วมงานอันทรงเกียรติครั้งนี้อย่างคับคั่ง

 

Bangkok’s Best Restaurant Awards” ถือเป็นหนึ่งในงานประกาศผลรางวัลที่เก่าแก่และทรงเกียรติสูงสุด จัดขึ้นเพื่อยกย่องผู้ประกอบการร้านอาหารและสถานบันเทิงชั้นเลิศของกรุงเทพฯ โดยงานในปีนี้มีผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลมากถึง 280 ราย ใน 17 สาขารางวัล ซึ่งผลปรากฏว่าห้องอาหาร เดอะ ดอค ซีฟู้ดบาร์ บาย ธรรมชาติ ซีฟู้ด ทองหล่อ สามารถคว้ารางวัล “Best Seafood (ร้านอาหารทะเลยอดเยี่ยม)” โดยวัดผลจากความนิยมของผู้บริโภคในกรุงเทพฯ

งานครั้งนี้จัดขึ้นภายในห้องบอลรูมนภาลัยอันหรูหราของโรงแรมดุสิตธานี ซึ่งห้องอาหาร เดอะ ดอค ได้ร่วมออกบูธนำเสนออาหารทะเลภายในงานและได้รับความสนใจอย่างมาก ผู้เข้าร่วมงานต่างได้ร่วมลิ้มรสชาติอาหารทะเลชั้นเลิศบนมาตรฐานเดียวกับที่ร้านอาหารในทองหล่อ โดย เดอะ ดอค ซีฟู้ดบาร์ มีชื่อเสียงโด่งดังจากอาหารทะเลสดใหม่เสมือนส่งตรงจากท้องทะเลที่ไม่ผ่านการแช่แข็ง หอยนางรมสดแบบเป็นๆ ที่แกะด้วยมือ และเนื้อปูไวล์เรดคิงส์อบซอสครีมอันชุ่มฉ่ำที่มอบความอิ่มเอมในรสชาติ จนทำให้เหล่านักชิมในกรุงเทพฯ ต่างติดใจและกลับมาเยือนร้าน เดอะ ดอค ครั้งแล้วครั้งเล่า

 

งานประกาศผลรางวัล “Bangkok’s Best Restaurant Awards” ครั้งที่ 19 มีผู้ทรงอิทธิพลในธุรกิจอาหารและสถานบันเทิง ตลอดจนแขกผู้มีเกียรติทั้งภาครัฐบาลและภาคเอกชนเข้าร่วมงานมากกว่า 1,000 คน สำหรับผู้รับหน้าที่นำเสนอผลิตภัณฑ์อาหารทะเลชั้นเลิศที่บูธ เดอะ ดอค ภายในงานครั้งนี้คือ ศันนีย์ จี. เดวีส์ กรรมการผู้จัดการ และ จูเลียน จี. เดวีส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งได้ร่วมพูดคุยกับเจ้าหน้าที่รัฐบาล บุคคลระดับสูง และสื่อมวลชน พร้อมสังสรรค์กับเหล่าบุคคลสำคัญในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและโรงแรมอย่างใกล้ชิด

 


วันพุธที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2560

แอทติโก้ ห้องอาหารในเวนิวส์ การันตีคุณภาพด้วยรางวัล“Bangkok’s Best Restaurants Award”


กรุงเทพฯ ประเทศไทย21 มิถุนายน 2560 – เมื่อเร็วๆนี้ ร้านอาหารแอทติโก้ ในเวนิวส์ ณ โรงแรม เรดิสัน บลู พลาซ่า กรุงเทพ ได้รับรางวัลในสาขา ร้านอาหารอิตาเลียนยอดเยี่ยม จากงานประกาศรางวัลห้องอาหารที่ดีที่สุดของกรุงเทพฯ ครั้งที่ 19  อย่าง“Bangkok’s Best Restaurant Awards” โดยงานจัดขึ้น ณ ห้องบอลรูม  นภาลัย โรงแรม ดุสิตธานี โดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 1,000 คน จากทั้งทางภาครัฐ นักการฑูต เซเล็บบริตี้มากมาย สื่อมวลชน รวมถึงองค์กรต่างๆในแวดวงธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรม ทุกคนล้วนแต่มีความยินดีและมีความตื่นเต้นอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมเฉลิมฉลองกับรางวัลในปีนี้ด้วยกัน

 

ห้องอาหารแอทติโก้ เข้ารับรางวัลโดยตัวแทน มรปีเตอร์ เฟอรัน ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรม เชฟแมทติโอ เวรินี และทีม “การได้เป็นส่วนหนึ่งในการรับรางวัลของงาน “Bangkok’s Best Restaurant Award” นี้ ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับร้านอาหาร แอทติโก้ และ โรงแรมเรดิสัน บลู พลาซ่า กรุงเทพ เรายังมีความภูมิใจอย่างยิ่ง เนื่องจากความตั้งใจจริงและความหลงไหลที่เราใส่ไว้การทำอาหารได้รับเกียรติและการเล็งเห็นจากคำตัดสินของคณะกรรมการ ทั้งนี้เรามีความยินดีที่จะได้ต้อนรับทุกท่านที่อาจจะยังไม่เคยมาลิ้มลองรสชาติอาหารอิตาเลียนแบบแท้ๆ ทุกท่านจะได้พบกับการนำเสนออาหารจานเด่นของเราแบบทัสคัน อีกทั้งดื่มด่ำไปกับบรรยากาศอันน่าทึ่ง จากระเบียงชั้น 28 ด้วย” มรปีเตอร์ เฟอรันผู้จัดการทั่วไปของโรงแรม เรดิสัน บลู กรุงเทพ กล่าว


วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

กฟน. มอบรางวัลอาคารประหยัดพลังงาน MEA Energy Saving Building Awards 2016 เผยผลงาน4 ปีช่วยชาติประหยัดเงินค่าไฟฟ้ากว่า 83.86 ล้านบาท


การไฟฟ้านครหลวง เดินหน้าสานต่อโครงการปีที่ เผยตัวเลขน่าภูมิใจ ผลสำเร็จของโครงการประกวดอาคารประหยัดพลังงาน MEA Energy Saving Building ตลอดระยะเวลโครงการ ปี ช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ 20.5 ล้านหน่วย คิดเป็นเงินค่าไฟฟ่าที่ประหยัดได้ 83.86 ล้านบาท ช่วยลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซต์ลง 12,597 ตัน โดยมีเงินลงทุนรวมของอาคาร187.85 ล้านบาท จาก ประเภทอาคารที่เข้าร่วมโครงการกว่า 247 แห่ง ร่วมมือร่วมใจประหยัดพลังงานในอาคารช่วยชาติสรุปผลการประกวดปีที่ โรงเรียนแจงร้อนวิทยาและบริษัทเซ็นทรัล แฟมิลี่มาร์ท จำกัด คว้ารางวัลอาคารประหยัดพลังงานดีเลิศ MEA Energy Saving Building Awards 2016

 

นายชัยยงค์ พัวพงศกร ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน) เปิดเผยว่า กฟน. ได้จัดทำโครงการส่งเสริมการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคาร หรือ MEA Energy Saving Building เพื่อสนับสนุนให้เกิดการใช้พลังงานในอาคารอย่างมีประสิทธิภาพกระตุ้นการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พลังงานของพนักงานภายในองค์การผ่านกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างจิตสำนึกร่วมกันในการใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่าและพัฒนาสู่การเป็นต้นแบบอาคารประหยัดพลังงานระดับประเทศและในระดับสากลโดยจัดประกวดอาคารลุล่วงมาเป็นปีที่ แล้วจากเป้าหมายดำเนินโครงการรวมปี เริ่มดำเนินการ ระหว่าง พ.ศ. 2555-2559

โดยมีอาคารเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 247 แห่ง จากอาคารกลุ่มคือ กลุ่มอาคารประเภทโรงพยาบาล, โรงแรม, สำนักงาน, มหาวิทยาลัย, ไฮเปอร์มาเก็ต, ศูนย์การค้า/ห้างสรรพสินค้า, โรงเรียน และร้านสะดวกซื้อ ซึ่งปรากฏผลประหยัดเป็นที่ประจักษ์จากความร่วมแรงร่วมใจของอาคารและทุกภาส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยช่วยลดพลังงานไฟฟ้าได้ถึง20.5 ล้านหน่วย คิดเป็นเงินที่ประหยัดค่าไฟได้ 83.86 ล้านบาท ช่วยลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซต์ลง 12,597 ตัน โดยมีเงินลงทุนของอาคารรวม 187.85 ล้านบาท

ทั้งนี้ ผลการดำเนินโครงการปีที่ 4 ในอาคารโรงเรียนและร้านสะดวกซื้อมีมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคารมากถึง 114 มาตรการมีเงินลงทุนรวมของอาคารทั้งสิ้น 21,376,973 บาท ระยะเวลาคืนทุนเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 2.85ปีผลประหยัดรวมของโครงการ สามารถลดพลังงานไฟฟ้าลงได้ 1,678,143 หน่วยต่อปีคิดเป็นเงินค่าไฟฟ้าที่ประหยัดได้ 7,504,076 บาทต่อปี และยังช่วยโลกลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 976 ตันต่อปี  

ทั้งนี้ ในการประกวดอาคารปีที่ เป็นการแข่งขันในอาคารประเภทโรงเรียนและร้านสะดวกซื้อ มีอาคารสมัครเข้าร่วมจำนวน 146 แห่ง ประกอบด้วย โรงเรียน จำนวน 20 แห่ง และร้านสะดวกซื้อ จำนวน 126 สาขา โดยมีอาคารที่ผ่านเกณฑ์ MEA Index ได้รับตราสัญลักษณ์ “กฟน. อาคารประหยัดพลังงาน” ในระดับที่ 1 จำนวนทั้งสิ้น 74 แห่ง แบ่งเป็นโรงเรียน 15 แห่ง และร้านสะดวกซื้อ 59 สาขา จาก 4 ผู้ประกอบราย ได้แก่ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น 14 สาขาบริษัทเซ็นทรัล แฟมิลี่มาร์ท จำกัดร้านสะดวกซื้อ แฟมิลี่มาร์ท 16 สาขาบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ร้านสะดวกซื้อมินิบิ๊กซี 6 สาขาบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ร้านสะดวกซื้อเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส 23 สาขา

สำหรับอาคารได้รับตราสัญลักษณ์ระดับที่ 1 แล้วจะเข้าแข่งขันต่อในระดับที่ 2 โดยในปีที่ 4 นี้ มีอาคารที่ผ่านเข้ารอบทั้งสิ้น 38 แห่ง แบ่งเป็นาคารโรงเรียน 14 แห่ง และร้านสะดวกซื้อ 24 จากผู้ประกอบการ 4 ราย มีผลการพิจารณาตัดสินรางวัลในแต่ละประเภท ดังนี้

อาคารประเภทโรงเรียน รางวัล กฟน.อาคารประหยัดพลังงาน ดีเลิศพร้อมกับได้รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท และเป็นสุดยอดอาคารประหยัดพลังงานของการไฟฟ้านครหลวงปีที่ 4ประเภทโรงเรียนจำนวน 1 รางวัล ได้แก่ โรงเรียนแจงร้อนวิทยา

รางวัล กฟน.อาคารประหยัดพลังงาน ดีเด่นพิเศษพร้อมกับได้รับเงินรางวัล 5 แสนบาท จำนวน 3 รางวัลได้แก่ โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย และโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี โดยมีโรงเรียนได้รับ รางวัล กฟน.อาคารประหยัดพลังงาน ดีเด่น(ไม่มีเงินรางวัล) จำนวน 9 รางวัล 

สำหรับ อาคารประเภทร้านสะดวกซื้อ ได้แบ่งการพิจารณาตัดสินและมอบรางวัลให้กับอาคารเป็นกรณีพิเศษ  โดยได้พิจารณาตัดสินผลคะแนนเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่ 1 ร้านสะดวกซื้อ (สำนักงานใหญ่)และ ส่วนที่ 2 ร้านสะดวกซื้อ (สาขา) ส่วนที่ 1ร้านสะดวกซื้อ (สำนักงานใหญ่) รางวัลกฟน.อาคารประหยัดพลังงาน ดีเลิศพร้อมกับได้รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท และเป็นสุดยอดอาคารประหยัดพลังงานของการไฟฟ้านครหลวงปีที่ 4 ประเภทร้านสะดวกซื้อ จำนวน 1 รางวัล  ได้แก่ บริษัท เซ็นทรัล แฟมิลี่มาร์ท จำกัดผู้ประกอบการร้านสะดวกซื้อแฟมิลี่มาร์ท

รางวัล กฟน.อาคารประหยัดพลังงาน ดีเด่นพิเศษพร้อมกับได้รับเงินรางวัล 5 แสนบาท จำนวน 3 รางวัล ได้แก่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)  ผู้ประกอบการร้านสะดวกซื้อ มินิบิ๊กซี บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่นซิสเทม จำกัดผู้ประกอบการร้านสะดวกซื้อ เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส และบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบการร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น ส่วนที่ 2ร้านสะดวกซื้อ (สาขา) สาขาที่ได้รับตราสัญลักษณ์กฟน.อาคารประหยัดพลังงาน ดีเลิศ” จำนวน 1สาขา แฟมิลี่มาร์ทสาขาชานเมืองแยก 4 สาขาที่ได้รับตราสัญลักษณ์กฟน.อาคารประหยัดพลังงาน ดีเด่นพิเศษ” จำนวน 5 สาขา ได้แก่ แฟมิลี่มาร์ทสาขาสุขุมวิท 48 แฟมิลี่มาร์ทสาขาชุมชนราม 53 ฟมิลี่มาร์ทสาขาหมู่บ้านเพิ่มสุข มินิบิ๊กซี สาขาบางกระดี่ เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส สาขาพุทธมณฑลสาย 2 และสาขาที่ได้รับตราสัญลักษณ์กฟน.อาคารประหยัดพลังงาน ดีเด่น อีกจำนวน 1สาขา

สำหรับในปี 2560 กฟน. ยังคงเดินหน้าสานต่อโครงการส่งเสริมการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคารต่อในปีที่ 5 หรือ MEA Energy Saving Building2017 ด้วยการจัดประกวดสำหรับอาคาร 4 กลุ่ม คือ อาคารโรงพยาบาล, โรงแรม, สำนักงาน และศูนย์การค้า/ห้างสรรพสินค้า เปิดรับสมัครอาคารเข้าร่วมโครงการในเดือนกันยายน 2559 ที่ผ่านมาและจะดำเนินการแข่งขันต่อเนื่องถึงเดือนธันวาคม 2560 โดยมีอาคารสมัครเข้าร่วมในปีที่ 5 จำนวน 29 แห่ง ประกอบด้วย อาคารโรงแรม 6 แห่งโรงพยาบาล 7 แห่งสำนักงาน 8 แห่ง และศูนย์การค้า/ห้างสรรพสินค้า จำนวน 8 แห่ง มีอาคารที่ผ่านเกณฑ์คุณภาพการใช้พลังงานและดัชนีการใช้พลังงาน MEA Index ตามที่ กฟน. กำหนดและได้รับตราสัญลักษณ์ “กฟน. อาคารประหยัดพลังงาน” ในระดับที่1 จำนวน 23 แห่ง โดยสามารถติดตามความเคลื่อนไหวโครงการต่อเนื่องได้ที่www.meaenergysavingbuilding.netและwww.facebook.com/MEAAward

โครงการส่งเสริมการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคารนั้น เป็นการแสดงเจตจำนง อย่างชัดเจน ของ กฟน. ในการส่งเสริมให้มีการใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสม และคุ้มค่า การปรับปรุงประสิทธิภาพของการใช้พลังงานนั้นนอกจากเป็นการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจ ในด้านการจัดการต้นทุนแล้ว ยังช่วยลดการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลกด้วย ความร่วมมือความร่วมใจของทุกอาคารที่เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ นับเป็นเป็นความสำเร็จร่วมกันของทุกๆฝ่ายที่เกี่ยวข้องการที่ กฟน. ได้มีส่วนช่วยส่งเสริมให้เจ้าของอาคารเกิดแรงจูงใจในการอนุรักษ์พลังงาน ใส่ใจการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ มีส่วนร่วมในการช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อน ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของ กฟน. ภายใต้ค่านิยม ระบบไฟฟ้ามั่นคง บริการมั่นใจ ห่วงใยสังคม นายชัยยงค์กล่าว