วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

กฟน. มอบรางวัลอาคารประหยัดพลังงาน MEA Energy Saving Building Awards 2016 เผยผลงาน4 ปีช่วยชาติประหยัดเงินค่าไฟฟ้ากว่า 83.86 ล้านบาท


การไฟฟ้านครหลวง เดินหน้าสานต่อโครงการปีที่ เผยตัวเลขน่าภูมิใจ ผลสำเร็จของโครงการประกวดอาคารประหยัดพลังงาน MEA Energy Saving Building ตลอดระยะเวลโครงการ ปี ช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ 20.5 ล้านหน่วย คิดเป็นเงินค่าไฟฟ่าที่ประหยัดได้ 83.86 ล้านบาท ช่วยลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซต์ลง 12,597 ตัน โดยมีเงินลงทุนรวมของอาคาร187.85 ล้านบาท จาก ประเภทอาคารที่เข้าร่วมโครงการกว่า 247 แห่ง ร่วมมือร่วมใจประหยัดพลังงานในอาคารช่วยชาติสรุปผลการประกวดปีที่ โรงเรียนแจงร้อนวิทยาและบริษัทเซ็นทรัล แฟมิลี่มาร์ท จำกัด คว้ารางวัลอาคารประหยัดพลังงานดีเลิศ MEA Energy Saving Building Awards 2016

 

นายชัยยงค์ พัวพงศกร ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน) เปิดเผยว่า กฟน. ได้จัดทำโครงการส่งเสริมการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคาร หรือ MEA Energy Saving Building เพื่อสนับสนุนให้เกิดการใช้พลังงานในอาคารอย่างมีประสิทธิภาพกระตุ้นการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พลังงานของพนักงานภายในองค์การผ่านกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างจิตสำนึกร่วมกันในการใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่าและพัฒนาสู่การเป็นต้นแบบอาคารประหยัดพลังงานระดับประเทศและในระดับสากลโดยจัดประกวดอาคารลุล่วงมาเป็นปีที่ แล้วจากเป้าหมายดำเนินโครงการรวมปี เริ่มดำเนินการ ระหว่าง พ.ศ. 2555-2559

โดยมีอาคารเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 247 แห่ง จากอาคารกลุ่มคือ กลุ่มอาคารประเภทโรงพยาบาล, โรงแรม, สำนักงาน, มหาวิทยาลัย, ไฮเปอร์มาเก็ต, ศูนย์การค้า/ห้างสรรพสินค้า, โรงเรียน และร้านสะดวกซื้อ ซึ่งปรากฏผลประหยัดเป็นที่ประจักษ์จากความร่วมแรงร่วมใจของอาคารและทุกภาส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยช่วยลดพลังงานไฟฟ้าได้ถึง20.5 ล้านหน่วย คิดเป็นเงินที่ประหยัดค่าไฟได้ 83.86 ล้านบาท ช่วยลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซต์ลง 12,597 ตัน โดยมีเงินลงทุนของอาคารรวม 187.85 ล้านบาท

ทั้งนี้ ผลการดำเนินโครงการปีที่ 4 ในอาคารโรงเรียนและร้านสะดวกซื้อมีมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคารมากถึง 114 มาตรการมีเงินลงทุนรวมของอาคารทั้งสิ้น 21,376,973 บาท ระยะเวลาคืนทุนเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 2.85ปีผลประหยัดรวมของโครงการ สามารถลดพลังงานไฟฟ้าลงได้ 1,678,143 หน่วยต่อปีคิดเป็นเงินค่าไฟฟ้าที่ประหยัดได้ 7,504,076 บาทต่อปี และยังช่วยโลกลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 976 ตันต่อปี  

ทั้งนี้ ในการประกวดอาคารปีที่ เป็นการแข่งขันในอาคารประเภทโรงเรียนและร้านสะดวกซื้อ มีอาคารสมัครเข้าร่วมจำนวน 146 แห่ง ประกอบด้วย โรงเรียน จำนวน 20 แห่ง และร้านสะดวกซื้อ จำนวน 126 สาขา โดยมีอาคารที่ผ่านเกณฑ์ MEA Index ได้รับตราสัญลักษณ์ “กฟน. อาคารประหยัดพลังงาน” ในระดับที่ 1 จำนวนทั้งสิ้น 74 แห่ง แบ่งเป็นโรงเรียน 15 แห่ง และร้านสะดวกซื้อ 59 สาขา จาก 4 ผู้ประกอบราย ได้แก่ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น 14 สาขาบริษัทเซ็นทรัล แฟมิลี่มาร์ท จำกัดร้านสะดวกซื้อ แฟมิลี่มาร์ท 16 สาขาบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ร้านสะดวกซื้อมินิบิ๊กซี 6 สาขาบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ร้านสะดวกซื้อเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส 23 สาขา

สำหรับอาคารได้รับตราสัญลักษณ์ระดับที่ 1 แล้วจะเข้าแข่งขันต่อในระดับที่ 2 โดยในปีที่ 4 นี้ มีอาคารที่ผ่านเข้ารอบทั้งสิ้น 38 แห่ง แบ่งเป็นาคารโรงเรียน 14 แห่ง และร้านสะดวกซื้อ 24 จากผู้ประกอบการ 4 ราย มีผลการพิจารณาตัดสินรางวัลในแต่ละประเภท ดังนี้

อาคารประเภทโรงเรียน รางวัล กฟน.อาคารประหยัดพลังงาน ดีเลิศพร้อมกับได้รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท และเป็นสุดยอดอาคารประหยัดพลังงานของการไฟฟ้านครหลวงปีที่ 4ประเภทโรงเรียนจำนวน 1 รางวัล ได้แก่ โรงเรียนแจงร้อนวิทยา

รางวัล กฟน.อาคารประหยัดพลังงาน ดีเด่นพิเศษพร้อมกับได้รับเงินรางวัล 5 แสนบาท จำนวน 3 รางวัลได้แก่ โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย และโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี โดยมีโรงเรียนได้รับ รางวัล กฟน.อาคารประหยัดพลังงาน ดีเด่น(ไม่มีเงินรางวัล) จำนวน 9 รางวัล 

สำหรับ อาคารประเภทร้านสะดวกซื้อ ได้แบ่งการพิจารณาตัดสินและมอบรางวัลให้กับอาคารเป็นกรณีพิเศษ  โดยได้พิจารณาตัดสินผลคะแนนเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่ 1 ร้านสะดวกซื้อ (สำนักงานใหญ่)และ ส่วนที่ 2 ร้านสะดวกซื้อ (สาขา) ส่วนที่ 1ร้านสะดวกซื้อ (สำนักงานใหญ่) รางวัลกฟน.อาคารประหยัดพลังงาน ดีเลิศพร้อมกับได้รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท และเป็นสุดยอดอาคารประหยัดพลังงานของการไฟฟ้านครหลวงปีที่ 4 ประเภทร้านสะดวกซื้อ จำนวน 1 รางวัล  ได้แก่ บริษัท เซ็นทรัล แฟมิลี่มาร์ท จำกัดผู้ประกอบการร้านสะดวกซื้อแฟมิลี่มาร์ท

รางวัล กฟน.อาคารประหยัดพลังงาน ดีเด่นพิเศษพร้อมกับได้รับเงินรางวัล 5 แสนบาท จำนวน 3 รางวัล ได้แก่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)  ผู้ประกอบการร้านสะดวกซื้อ มินิบิ๊กซี บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่นซิสเทม จำกัดผู้ประกอบการร้านสะดวกซื้อ เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส และบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบการร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น ส่วนที่ 2ร้านสะดวกซื้อ (สาขา) สาขาที่ได้รับตราสัญลักษณ์กฟน.อาคารประหยัดพลังงาน ดีเลิศ” จำนวน 1สาขา แฟมิลี่มาร์ทสาขาชานเมืองแยก 4 สาขาที่ได้รับตราสัญลักษณ์กฟน.อาคารประหยัดพลังงาน ดีเด่นพิเศษ” จำนวน 5 สาขา ได้แก่ แฟมิลี่มาร์ทสาขาสุขุมวิท 48 แฟมิลี่มาร์ทสาขาชุมชนราม 53 ฟมิลี่มาร์ทสาขาหมู่บ้านเพิ่มสุข มินิบิ๊กซี สาขาบางกระดี่ เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส สาขาพุทธมณฑลสาย 2 และสาขาที่ได้รับตราสัญลักษณ์กฟน.อาคารประหยัดพลังงาน ดีเด่น อีกจำนวน 1สาขา

สำหรับในปี 2560 กฟน. ยังคงเดินหน้าสานต่อโครงการส่งเสริมการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคารต่อในปีที่ 5 หรือ MEA Energy Saving Building2017 ด้วยการจัดประกวดสำหรับอาคาร 4 กลุ่ม คือ อาคารโรงพยาบาล, โรงแรม, สำนักงาน และศูนย์การค้า/ห้างสรรพสินค้า เปิดรับสมัครอาคารเข้าร่วมโครงการในเดือนกันยายน 2559 ที่ผ่านมาและจะดำเนินการแข่งขันต่อเนื่องถึงเดือนธันวาคม 2560 โดยมีอาคารสมัครเข้าร่วมในปีที่ 5 จำนวน 29 แห่ง ประกอบด้วย อาคารโรงแรม 6 แห่งโรงพยาบาล 7 แห่งสำนักงาน 8 แห่ง และศูนย์การค้า/ห้างสรรพสินค้า จำนวน 8 แห่ง มีอาคารที่ผ่านเกณฑ์คุณภาพการใช้พลังงานและดัชนีการใช้พลังงาน MEA Index ตามที่ กฟน. กำหนดและได้รับตราสัญลักษณ์ “กฟน. อาคารประหยัดพลังงาน” ในระดับที่1 จำนวน 23 แห่ง โดยสามารถติดตามความเคลื่อนไหวโครงการต่อเนื่องได้ที่www.meaenergysavingbuilding.netและwww.facebook.com/MEAAward

โครงการส่งเสริมการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคารนั้น เป็นการแสดงเจตจำนง อย่างชัดเจน ของ กฟน. ในการส่งเสริมให้มีการใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสม และคุ้มค่า การปรับปรุงประสิทธิภาพของการใช้พลังงานนั้นนอกจากเป็นการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจ ในด้านการจัดการต้นทุนแล้ว ยังช่วยลดการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลกด้วย ความร่วมมือความร่วมใจของทุกอาคารที่เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ นับเป็นเป็นความสำเร็จร่วมกันของทุกๆฝ่ายที่เกี่ยวข้องการที่ กฟน. ได้มีส่วนช่วยส่งเสริมให้เจ้าของอาคารเกิดแรงจูงใจในการอนุรักษ์พลังงาน ใส่ใจการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ มีส่วนร่วมในการช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อน ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของ กฟน. ภายใต้ค่านิยม ระบบไฟฟ้ามั่นคง บริการมั่นใจ ห่วงใยสังคม นายชัยยงค์กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น